นโยบายความเป็นส่วนตัว
(Privacy Policy)

บริษัท ยูไลท์ ดิจิตอล จำกัด (“บริษัทฯ”) มีความมุ่งมั่นและให้ความสำคัญต่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของบริษัทฯ บริษัทฯ จึงจัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy) นี้ (“นโยบายฯ”) เพื่อระบุถึงวิธีการและมาตรการของบริษัทฯ ในการเก็บรวบรวม ใช้ จัดการ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (รวมเรียกว่า “การประมวลผล”) โดยที่
บริษัทฯ จะดำเนินการตามนโยบายฯ นี้ พร้อมทั้งปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงจัดทำเอกสาร และทบทวนมาตรการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีประสิทธิภาพและเหมาะสม

ก่อนที่ท่านในฐานะ “ผู้ใช้บริการ” จะเข้าใช้บริการแพลตฟอร์ม Ulite (“แพลตฟอร์ม”) นี้ โปรดอ่านนโยบายฯ นี้อย่างละเอียดเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการและมาตรการของบริษัทฯ ในการประมวลผลและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

คำนิยาม

เว้นแต่ข้อความหรือบริบทในข้อตกลงฯ นี้จะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น ให้ถ้อยคำที่ระบุต่อไปนี้มีความหมาย ดังนี้

“ข้อมูลส่วนบุคคล”

หมายถึง

ข้อมูลเกี่ยวกับบุคล (Personal Data) ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลนิติบุคคล และข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ ทั้งนี้ เป็นไปตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

“ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว”

หมายถึง

ข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นเรื่องส่วนตัวโดยแท้ของบุคคล ซึ่งมีความละเอียดอ่อนและมีความเสี่ยงต่อการถูกใช้ในการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม (Sensitive Personal Data) ได้แก่ เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

“โมบาย สตอเรจ”

หมายถึง

ไฟล์คอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก (Mobile Storages) ที่ใช้เก็บข้อมูลส่วนบุคคลลงในเครื่องคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งทำหน้าที่บันทึกข้อมูลและการตั้งค่าต่าง ๆ เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการให้บริการ ซึ่งจะมีผลในขณะที่เข้าใช้งานแพลตฟอร์มเท่านั้น

“เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล”

หมายถึง

บุคคลซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (Data Subject)

“บริษัทฯ”

หมายถึง

บริษัท ยูไลท์ ดิจิตอล จํากัด

“บุคคล”

หมายถึง

บุคคลธรรมดา

“ผู้ใช้บริการ”

หมายถึง

ผู้ใช้บริการแพลตฟอร์ม Ulite

“แพลตฟอร์ม”

หมายถึง

แพลตฟอร์ม Ulite ซึ่งดำเนินการโดยบริษัทฯ

ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม

บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับการใช้บริการแพลตฟอร์ม ดังต่อไปนี้

1.            ข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่

(1)           ข้อมูลที่บ่งชี้ตัวตน เช่น  ชื่อ นามสกุล วันเกิด เพศ สัญชาติ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน และบัญชีโซเชียลมีเดีย (Social Media Account) บัญชีผู้ใช้และรหัสผ่าน

(2)            ข้อมูลติดต่อ เช่น ที่อยู่ สถานที่ติดต่อ หมายเลขโทรศัพท์ และอีเมล

(3)           ข้อมูลทางการเงิน เช่น ข้อมูลการชำระเงิน รายละเอียดของยอดเงินที่ชำระแล้วหรือที่ค้างชำระ ค่าปรับเนื่องจากการผิดนัดชำระเงิน หมายเลขบัตรเครดิต หมายเลขบัตรเดบิต และหมายเลขบัญชีธนาคาร

(4)           ข้อมูลที่เก็บรวบรวมในการทำกิจกรรมทางการตลาด เมื่อเข้าร่วมรายการส่งเสริมการขายหรือแคมเปญ
ต่าง ๆ หรือรายการอื่นในทำนองเดียวกัน

(5)           ข้อมูลที่เก็บรวบรวมโดยอัตโนมัติผ่านการติดตามตรวจสอบการทำงานของแพลตฟอร์ม ได้แก่ ข้อมูลการเข้าสู่ระบบ ระบบปฏิบัติการ การเข้าใช้บริการแพลตฟอร์มและหน้าต่างแพลตฟอร์มที่เข้าชมผ่านโมบาย สตอเรจ และตำแหน่งที่อยู่ในขณะที่มีการใช้บริการแพลตฟอร์ม

(6)           ข้อมูลที่บริษัทฯ ร้องขอจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย ตามคำขอของหน่วยงานที่มีอำนาจ และ/หรือคำสั่งศาล

(7)           ข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ไว้แก่บริษัทฯ เป็นคราว ๆ ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับการใช้บริการแพลตฟอร์ม

 

2.                        ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวที่เกี่ยวข้องกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อการดำเนินการตามคำสั่งซื้อสินค้าหรือการให้บริการบนแพลตฟอร์ม หรือเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสมัครใจและยินยอมให้ข้อมูลดังกล่าวเท่านั้น บริษัทฯ จะใช้ข้อมูลนี้เพื่อวัตถุประสงค์ที่จำกัดและตามที่ได้รับอนุญาตให้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวเท่านั้น

หลักการและวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมายที่ได้แจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบก่อนหรือในขณะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทฯ จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนหรือในขณะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่เป็นกรณีที่บริษัทฯ สามารถประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลได้โดยไม่ต้องขอความยินยอม

การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ จะเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

(1)                     เพื่อการเข้าทำสัญญาและปฏิบัติตามสัญญาหรือความผูกพันระหว่างบริษัทฯ กับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

(2)           เพื่อพิสูจน์และยืนยันตัวตนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับการลงทะเบียนเป็นสมาชิกและการใช้บริการแพลตฟอร์ม

(3)           เพื่อประกอบการพิจารณาในการเข้าทำธุรกรรมกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามข้อตกลงและเงื่อนไขที่กำหนดบนแพลตฟอร์ม

(4)                     เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้บริการแพลตฟอร์ม และพัฒนาแพลตฟอร์ม

(5)                     เพื่อการประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และการติดตามทวงถามหนี้

(6)           เพื่อการโฆษณาและการทำการตลาด โดยการประชาสัมพันธ์ และ/หรือเสนอขายผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ ให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง

(7)           เพื่อใช้ประกอบการศึกษา วิเคราะห์ และจัดทำข้อมูลเชิงสถิติ เพื่อใช้ในการบริหารจัดการและการปรับปรุงการให้บริการของบริษัทฯ และวางแผนทิศทางในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ

(8)           เพื่อปฏิบัติตามข้อบังคับ กฎ ระเบียบ หรือกฎหมายที่ใช้บังคับ รวมถึงคำสั่งศาล หมายศาล กระบวนการบังคับใช้กฎหมาย การไต่สวนโดยหน่วยงานที่มีอำนาจ หรือกรณีอื่นตามที่กฎหมายกำหนด

ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเป็นข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ บริษัทฯ จะปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าว โดยคำนึงถึงการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างสูงสุด

การใช้โมบาย สตอเรจ   

บริษัทฯ ใช้โมบาย สตอเรจ ในการบันทึกข้อมูล รูปแบบการใช้แพลตฟอร์ม ประวัติการใช้แพลตฟอร์ม และการตั้งค่าต่าง ๆ ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเป็นผู้ใช้บริการ เพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถใช้บริการแพลตฟอร์มได้โดยสะดวก รวดเร็ว ต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพ โดยบริษัทฯ สามารถนำข้อมูลดังกล่าวไปวิเคราะห์ เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ หรือบริการที่ตอบสนองต่อความต้องการของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงพัฒนาและปรับปรุงแพลตฟอร์มและบริการให้ดียิ่งขึ้นเพื่อประโยชน์สูงสุดของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถตั้งค่าความเป็นส่วนตัวบนแพลตฟอร์ม เพื่อปิดหรือระงับการใช้งานโมบาย สตอเรจได้ ไม่ว่าส่วนหนึ่งส่วนใด ทั้งนี้ การปิดหรือระงับการใช้งานโมบาย สตอเรจอาจส่งผลให้บริษัทฯ ไม่สามารถให้บริการแพลตฟอร์มแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ

การเปิดเผยและโอนข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ มีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อบุคคลและหน่วยงานดังที่ระบุด้านล่างนี้ เพื่อสนับสนุนการให้บริการแพลตฟอร์ม และการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ บริษัทฯ อาจกำหนดเงื่อนไขตามสัญญาให้ผู้รับข้อมูลดังกล่าวใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้เท่านั้น และผู้รับข้อมูลจะต้องทำลายหรือส่งข้อมูลดังกล่าวคืนให้แก่บริษัทฯ เมื่อไม่มีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลดังกล่าวอีกต่อไป นอกจากนี้ บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลตามที่ได้รับการร้องขอหรือตามความเหมาะสม เพื่อปกป้องสิทธิของบริษัทฯ หรือเป็นข้อมูลที่เกี่ยวกับการขาย หรือควบรวมสินทรัพย์หรือกิจการของบริษัทฯ ในกรณีที่บริษัทฯ ถูกซื้อกิจการ หรือขายกิจการบางส่วนหรือทั้งหมด ซึ่งข้อมูลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมไว้จะถือเป็นสินทรัพย์ที่สามารถโอนให้แก่ผู้ซื้อกิจการได้

ในกรณีที่มีการโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ บริษัทฯ จะปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การโอนข้อมูลตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลกำหนด

ประเภทของบุคคลและหน่วยงานที่บริษัทฯ มีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลกับบุคคลภายนอกดังต่อไปนี้

(1)           ลูกจ้างและผู้รับจ้างที่มีความจำเป็นต้องเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อการดำเนินธุรกิจและการปฏิบัติหน้าที่ของบริษัทฯ

(2)           ผู้ให้บริการที่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในนามของบริษัทฯ หรือสนับสนุนหรือช่วยเหลือการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ

(3)           หน่วยงาน หรือคู่ค้าที่ดำเนินงานด้านข้อมูลเครดิต และสถาบันการเงิน

(4)           ลูกค้าหรือผู้ใช้งานที่สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมจากแหล่งข้อมูลสาธารณะ และข้อมูลได้รับจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละราย

(5)            คู่ค้า และพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทฯ

(6)           ผู้สอบบัญชี ทนายความ และที่ปรึกษาของบริษัทฯ

(7)           ศาลที่มีเขตอำนาจ หน่วยงานรัฐ หรือหน่วยงานอื่น ๆ ที่มีอำนาจตามกฎหมาย  เช่น กรมสรรพากร สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ

(8)           บุคคลที่สามที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ร้องขอให้บริษัทฯ เปิดเผยข้อมูลดังกล่าว

ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด และในกรณีที่กฎหมายไม่ได้กำหนดระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นการเฉพาะ บริษัทฯ จะกำหนดระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลตามที่จำเป็นและเหมาะสมกับลักษณะของข้อมูลส่วนบุคคลและวัตถุประสงค์ของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว และเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาแล้ว บริษัทฯ จะดำเนินการลบ ทำลาย ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ หรือดำเนินการอื่นใดตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด เพื่อให้การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

สิทธิในการได้รับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของตนซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัทฯ ดังนี้

(1)                     สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม

(2)                     สิทธิในการเข้าถึงและขอสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล

(3)                     สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล

(4)                     สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

(5)                     สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล

(6)                     สิทธิในการระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

(7)                     สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง และ

(8)                     สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียนต่อหน่วยงานกำกับดูแล

หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลรายใดประสงค์ที่จะใช้สิทธิใด ๆ ดังกล่าวข้างต้น โปรดติดต่อมายังบริษัทฯ และบริษัทฯ จะตอบกลับมายังเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลภายใน หนึ่ง (1) เดือน ทั้งนี้ บริษัทฯ อาจคิดค่าธรรมเนียมสำหรับบริการนี้ขึ้นกับดุลพินิจของบริษัทฯ แต่เพียงผู้เดียว

อย่างไรก็ดี บริษัทฯ อาจปฏิเสธการใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้นของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามหลักเกณฑ์และนโยบายที่บริษัทฯ กำหนด โดยไม่ขัดต่อกฎหมาย หรือเป็นกรณีที่บริษัทฯ มีความจำเป็นที่จะต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลต่อไปเพื่อการกระทำดังต่อไปนี้

(1)           ทำรายการใด ๆ ตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น จัดหาสินค้าหรือบริการตามที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลร้องขอ ดำเนินการตามสมควรภายในขอบเขตความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างบริษัทฯ กับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือปฏิบัติตามสัญญาอื่นใดระหว่างบริษัทฯ กับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

(2)           ตรวจสอบเหตุการณ์เกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ป้องกันการกลั่นแกล้ง การฉ้อฉล การฉ้อโกง หรือการกระทำผิดกฎหมาย หรือฟ้องร้องดำเนินคดีกับบุคคลที่ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำดังกล่าว

(3)            ตรวจสอบการทำงานของแพลตฟอร์ม เพื่อปรับปรุงและแก้ไขข้อผิดพลาด

(4)            รับรองสิทธิของผู้บริโภครายอื่นตามที่กฎหมายกำหนด

(5)           ทำการศึกษาวิจัยเชิงวิทยาศาสตร์ เชิงประวัติ หรือเชิงสถิติโดยทั่วไป หรือโดยผู้ชำนาญการ เพื่อประโยชน์สาธารณะ โดยคำนึงถึงจรรยาบรรณและกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เมื่อการลบข้อมูลนั้นจะทำให้ไม่สามารถบรรลุหรือขัดขวางการบรรลุผลสำเร็จในการศึกษาวิจัยอย่างมีนัยสำคัญ หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมแล้วก่อนหน้านี้

(6)            ใช้เป็นการภายในตามสมควรโดยสอดคล้องกับความคาดหมายของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และสอดคล้องกับบริบทที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ข้อมูลดังกล่าวไว้แต่แรก

(7)             ปฏิบัติหน้าที่ตามข้อบังคับ กฎ ระเบียบ หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

บริษัทฯ จะใช้ความพยายามทุกวิถีทาง เพื่อแก้ไขข้อร้องเรียนหรือปัญหาต่าง ๆ โดยเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้

การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ จะจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต และสอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ และมาตรฐานที่รับรองโดยทั่วไป ในการนี้ บริษัทฯ จะมีการสอบทานและปรับปรุงมาตรการดังกล่าวตามความจำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่าการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปตามมาตรฐานและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

นโยบายและขั้นตอนวิธีการต่าง ๆ เพื่อการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลอย่างปลอดภัย และป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตที่บริษัทฯ ดำเนินการมีดังนี้

(1)                     กำหนดนโยบายและขั้นตอนการปฏิบัติงานที่ชัดเจน เพื่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

(2)                     จำกัดสิทธิของลูกจ้างในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล

(3)                     ป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยใช้การเข้ารหัสข้อมูล การตรวจสอบตัวตนและเทคโนโลยีการตรวจจับไวรัส ตามความจำเป็น

(4)           กำหนดให้คู่ค้าที่ทำธุรกิจกับบริษัทฯ ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ตามกฎหมายและระเบียบต่าง ๆ ว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกำหนดข้อจำกัดการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลในสัญญาที่บริษัทฯ ทำกับคู่ค้าแต่ละราย

(5)                     ประเมินผลการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล การจัดการข้อมูล และการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลของบริษัทฯ เป็นประจำ

การติดต่อกับบริษัทฯ

ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีข้อสงสัยหรือข้อเสนอแนะเกี่ยวกับนโยบายฯ หรือการปฏิบัติตามนโยบายฯ นี้ บริษัทฯ ยินดีตอบข้อสงสัย และรับฟังข้อเสนอแนะ เพื่อประโยชน์ในการปรับปรุงมาตรการการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ต่อไป โดยเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถติดต่อบริษัทฯ ได้ที่ 1023 อาคารเอ็มเอส สยาม ทาวเวอร์ ชั้น 29 ถนนพระราม 3 แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร หรือช่องทาง อีเมล info@uliteshop.com หรือโทร 02-164-1571 หรือ 02-164-1572

การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายฯ

หากบริษัทฯ มีการเปลี่ยนแปลงแนวปฏิบัติว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ บริษัทฯ จะดำเนินการปรับปรุงและแก้ไขนโยบายฯ นี้ และแสดงบนแพลตฟอร์ม เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้ทราบถึงวิธีการและมาตรการของบริษัทฯ ในการประมวลผลและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นปัจจุบัน


วันที่นโยบายฯ นี้มีผลใช้บังคับ: 20 มีนาคม 2564

นโยบายฯ นี้ปรับปรุงครั้งล่าสุดเมื่อ: 20
มีนาคม
2564